นี่อาจเป็นสิ่งที่ควรจะบันทึกไว้ในปี 2023 ว่า เป็นวันที่แฟนเพลงวงร็อคถึงกับว้าวุ่นใจกับการเลือกจะดูวงอะไรระหว่าง วงร็อคขวัญใจอีโมอย่าง Saosin ที่เรียกว่าทัวร์ีอบนี้ได้ Cove Reber นักร้องอีกคนที่มาทัวร์แทน Anthony Green ที่ขอถอนทัวร์ออกจากทัวร์ซึ่งน่าเสียดาย แต่การได้ Cove มาทำหน้าที่นี้ทำให้ทัวร์ครั้งนี้คือการได้ฟังผลงานอัลบั้ม Saosin ที่เป็นอัลบั้มปกด้วงในตำนานที่แฟนเพลงถึงกับบอกว่านี่แหละ Masterpiece ของวง เพราะหลาย ๆ เพลงอย่าง It’s far better to learn, Come Close และ Voices ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบต่อแฟนเพลงหลาย ๆ คน
เกริ่นมาขนาดนี้ขอพูดถึงอีกวงที่มาทัวร์ในวันเดียวกันนั่นก็คือวง Bring me the horizon ที่เรียกได้เป็นวงร็อคแถวหน้าจากอังกฤษ ที่แฟนเพลงต่างรักทั้งการผลงานที่เห็นถึงพัฒนาการของวงแบบไม่หยุดยั้ง การผสมผสานสิ่งใหม่ ๆ มาในเพลงและเนื้อหาที่โดนใจหลาย ๆ คน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อปี 2019 วงเคยมาทัวร์บ้านเราที่ลาน Show DC ก็ได้สร้างความประทับใจกับแฟนเพลงไปไม่น้อย บอกได้เลยว่าใครเป็นแฟนเพลงทั้ง 2 วงก็ต้องหนักใจไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากเล่นวันเดียวกันแล้วนั้น สถานที่จัดงานก็ห่างกันเยอะมาก ๆ ระหว่าง Union Mall และ Show DC แต่ยังที่แต่ละวงขึ้นคนละเวลา แต่ด้วยระยะทางที่ห่างขนาดนี้ วันนั้นใครควบ 2 วง ผู้เขียนก็อยากมอบถ้วยดีเด่นให้กับตัวอย่างแน่นอน
แน่นอนครับ ด้วยทุนทรัพย์ที่จำกัดทางผู้เขียนมิอาจจะควบทั้ง 2 งาน ก็เลยปักใจมาหาวง Bring Me The Horizon แทน เพราะส่วนตัวผลงานยุคใหม่ ๆ ช่างน่าถูกใจแถมทัวร์ครั้งที่แล้วก็เป็น 1 ในคนดูหลักพันที่มาดูอีก ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นแฟนคลับตัวยงเลยทีเดียว
ไม่รอช้าตัวผู้เขียนมาถึงงานประมาณ 4 โมงเย็น พร้อมกับคนที่หนาตาประมาณหนึ่ง ซึ่งก็น่าตกใจว่านี่วันทำงานนะเนี่ย พอเข้ามาที่ฮอลล์ก็พบว่าแฟนเพลงก็มากันล้นหลาม แต่บอกก่อนว่ารอบนี้วงไม่ได้มาแค่วงเดียวแบบเล่นจบละจากไป รอบนี้มีวง Post Hardcore สุดมันอย่าง I Previal ที่เรียกได้ว่าสไตล์งานเพลงก็ใกล้กับวงไม่ใข่น้อย ซึ่งเมื่อถึงเวลา 18.15 น.วงก็มาพร้อมกับเพลง Bow Down ที่จัดว่าเดือดอย่างสาแก่ใจถึงกับทำให้พื้นฮอลล์สะเทือน
ด้วยความเดือดดาลในพาร์ทดนตรีสุดหนักแน่น เสียงว้ากอันสะใจพร้อมท่อนฮุคแบบเสียงร้องหวาน ๆ คลีน ๆ ก็เรียกได้ว่าน่าจะถูกใจทั้งแฟนเพลงและคนฟังหน้าใหม่ที่รู้จักวงนี้ เพราะหลาย ๆ เพลง อย่าง Self-Destruction, Gasoline, Hurricane, Deep End ก็น่าถูกใจไม่ใช่น้อย แถมยังเล่น Cover อย่างเพลง Break Stuff ของ Limp Bizkit และ Chop Suey! ของ System of a Down ก็ทำให้เป็นวงเปิดที่เรียกน้ำย่อยได้อย่างดีเยี่ยม
20.00 น. วงหลักอย่าง Bring Me The Horizon ก็พร้อมโชว์ ที่รอบนี้มาใน Concept อย่าง Post Human ที่มีกลิ่นอายของเกมที่เป็นที่รู้จักอย่าง Resident Evil โดยมีตัวละครสมมติอย่าง E.V.E มาทักทายคนดูให้รูัสึกว่าตัวเองเป็นอาสาสมัครการทดลองเพื่อพัฒนาในโปรเจ็คชื่อ Nex Gen ซึ่งตัวผู้เขียนยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการมีเนื้อเรื่องราวกับ Cutscene ในเกมแต่อยู่ในคอนเสิร์ตของวง ก่อนจะเปิดตัวด้วยเพลงแรกอย่าง Can you feel my heart ที่ทุกคนต่างแหกปากสุดเสียงกับเพลงนี้
ต่อด้วยเพลงชุดใหม่และเพลงฮิตอย่าง Amen, Teardrops, Happy Song, Mantra, Shadow Moses ผสมกับเพลงจากชุด Post Human :Survival Horror และ Nex Gen อย่าง Dear Diary, Parasite Eve ,Die4U และ Kingslayer ที่เรียกทำคนคลั่งกันทั้งโชว์ แถมเล่นเพลงลึก ๆ อย่าง Sleepwalking และ Chelsea Smile ก่อนจะปิดทั้งโชว์อย่าง Drown และ Throne ที่เรียกเต็มอิ่มกันไปเลย
เกือบ 2 ชั่วโมงของโชว์เรียกได้ว่าทำให้แฟนเพลงนับวันได้ปลดปล่อยความบ้าคลั่งมาก Setlist ที่มีเพลงช้าเพลงเดียวอย่าง Follow You ที่เปรียบเหมือนช่วงพักหายใจแปปเดียว แต่เรียกได้ว่า 95% ของโชว์ทำให้คนดูยืนแบบขาไม่ติด ต้องมีโดด มีโยกหัวหรือใครชอบที่จะให้ร่างกายอยากปะทะก็มี Mosh Pit และ Circle Pit ไม่ให้พักผ่อน (แต่เห็นว่าโซน A มีการพายเรือในงานด้วย โคตรเสียดาย)
พูดได้เต็มปากว่าวง Bring Me The Horizon เป็นวงที่มีพัฒนาการที่ชัดเจนและ Energy การโชว์ที่เหลือล้นก็สามารถครอบครองหัวใจแฟนคลับได้มากขึ้นในทุก ๆ วัน ว่าแล้วรอบหน้าก็อยากให้มาไทยอีกเพราะเชื่อว่าชุดต่อไปอย่าง Nex Gen ต่อมีอะไรที่ทำให้แฟนเพลงตื่นเต้นแน่นอน
About Storytellers
ชายหนุ่ม Ambivert ที่รักในงานศิลปะประเภทภาพนิ่งและเคลื่อนไหว อีกทั้งหลงใหลเสียงดนตรีแบบหน้ามืดตามัว มีวาทศิลป์พอประมาณ สนทนาได้ทั้งหนังระดับ Oscar และพชร์ อานนท์ รักการฟังเพลงทั้งสายแมสและไทบ้าน นิสัยเป็นคนตลกแต่ชีวิตดันติดตลกร้ายไปนิดนึง